
รัฐบาลมาเลเซีย ยังคงยึดหลักการเดิมอย่างคงมั่นที่อยากจะให้ทางประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นที่จะต้องมีการยกระดับมาตรการการกดดันต่อรัฐบาลเผด็จการแห่งอิสราเอลให้มากขึ้น หากว่าเราต้องการสนับสนุนในการยุติปัญหาการอพยพการตั้งถิ่นฐานอย่างผิดกฏหมายชองรัฐบาลอิสราเอลในแผ่นดินปาเลสไตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียดาโต๊ะ ศรี อานีฟะฮ์ อามาน ได้กล่าวอีกว่า มาตรการการกดดันดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญและนำมาดำเนินการผ่านทุกช่องทางที่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางของกฏหมาย การกดดันทางการทูต และด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ยังกล่าวอีกว่า ทางรัฐบาลมาเลเซียขอประณามทุกการกระทำที่ป่าเถื่อนโหดร้ายที่ดำเนินการโดยเผด็จการอิสราเอลที่มีต่อชาวปาเลสไตน์ รวมไปถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขตของอิสราเอลบริเวณรอบๆ ของมัสยิดอัลอักศอ ที่นอกเหนือจากความพยายามที่จะทำการแก้ไขกฏหมายแห่งเยรูซาเล็ม
“มาตรการการคว่ำบาตรขั้นเด็ดขาดจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ในการรับมือกับสภานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราไม่อาจที่จะยอมให้จอมเผด็จการอิสราเอล กระทำการกดขี่ต่อพี่น้องชาวปาเลสไตน์เพียงลำพังได้อีกต่อไป”
“ประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นที่จะต้องร่วมกันยุติบทบาทของอิสราเอลในการก่ออาชญากรรมอย่างต่อเนื่องนี้ให้ได้ ที่เป็นสาเหตุของความทุกข์ทรมานที่น่าหวาดกลัวและโหดร้าย ที่ได้ประสบกับพี่น้องชาวปาเลสไตน์” เขากล่าว
เขาได้กล่าวเช่นนั้นในวงประชุมหกฝ่ายประเทศสมาชิก เกี่ยวกับปัญหากรณีปาเลสไตน์ ในโอกาสครบรอบการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งสหประชาชาติ (UNGA) ครั้งที่ 71 ที่กรุงนิวยอร์ก
การประชุมดังกล่าวมีท่านเลขาธิการที่ประชุมโลกอิสลาม (โอไอซี) เป็นประธาน ท่านอิยาด อามัน มาดานีย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า กฏหมายเกี่ยวกับการอนุญาตให้มีการถิ่นฐานอย่างผิดกฏหมายบนดินแดนปาเลสไตน์นี้ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญให้กับกระบวนการสันติภาพระหว่างทั้งสองฝ่ายที่เป็นคู่ขัดย้างหลัก
เขายังกล่าวด้วยว่า ทางรัฐบาลมาเลเซียมีความเชื่อมั่นว่า มียังความพยายามอย่างหลากหลายช่องทางที่จะบรรลุสู่การเจรจาสันติภาพให้เกิดขึ้น รวมไปถึงกรอบข้อตกลงในการคลี่คลายปัญหาของทั้งสองฝ่ายที่มีความยั่งยืนและถาวร ที่อาจเป็นหลักประกันให้กับทางสองฝ่ายในอนาคต
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ มาเลเซียของสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลฝรั่งเศสในการริเริ่มความพยายามในด้านการเมือง เพื่อสนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพให้เกิดขึ้นบนดินแดนตะวันออกกลาง ที่ได้นำเสนอในที่ประชุมเพื่อสันติภาพในตะวันออกกลางเมื่อวันที่ 3 เดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา”
“เขามีวัตถุประสงค์ก็เพื่อให้มีการจัดตั้งหน่วยงานการทำงานร่วมกันขึ้นมา เพื่อการจัดการกระบวนการทางการเมืองให้มีขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้น เพื่อไปสู่การดำเนินการสู่การคลี่คลายปัญหาของทั้งสองประเทศ” เขากล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ดาโต๊ะ ศรี อานีฟะฮ์ อามาน ได้กล่าวอีกว่า ทางมาเลเซียจะยังคงให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อชาวปาเลสไตน์ ในการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิเสรีภาพของพวกเขากลับคืนมา
ที่มา http://www.bharian.com.my/node/194368